สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทร
มหาภูมิพลอดุลยเดช
พ.ศ. ๒๔๘๙ – พ.ศ. ๒๕๕๙
บทนำ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร
มหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราช
สมภพเมื่อวันจันทร์ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือนอ้าย
ปีเถาะ จุลศักราช ๑๒๘๙ ตรงกับวันที่ ๕
ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๐ ทรงเป็นพระราช
โอรสพระองค์เล็กในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร
อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จ
พระศรีนครินทราบรมราชชนนี
พระราชพิธีที่ประกอบขึ้นก่อนวันพระฤกษ์บรมราชาภิเษก อย่างไรก็ดี ก่อนจะเริ่มการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกได้ประกอบพระราชพิธีเบื้องต้น ๒ พิธี คือ (๑) ทำน้ำอภิเษก ตั้งพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ ณ พระพุทธเจดีย์ที่สำคัญตามจังหวัดต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร รวม ๑๘ แห่ง เหมือนครั้งรัชกาลก่อนๆ ซึ่งเมื่อทำพิธีเสร็จแล้วก็ส่งเข้ามาเจือปนเป็นน้ำมูรธาภิเษกให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสรงและทรงรับน้ำอภิเษกในวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษกต่อไป
พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส การพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ได้กำหนดพระฤกษ์ในวันศุกร์ที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๓ ณ วังสระปทุม ตำหนักสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า มีพระเจ้า
วรวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร และจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ลงนามเป็นราชสักขี เวลา ๑๐:๔๕ น. สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ถวายน้ำพระพุทธมนต์เทพมนต์ และทรงเจิมแด่หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร เป็นสมเด็จพระราชินีแล้ว พระราชทานเครื่องพระราชอิสริยาภรณ์ อันมีเกียรติคุณยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ประดับเพชร
การถวายราชสักการะ
สมเด็จพระบรมราชบุพการี
พิธีหนึ่งที่ทรงกระทำก่อนการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก คือ การถวายราชสักการะพระบรมอัฐิและพระอัฐิของสมเด็จพระบรมราชบุพการี ในหอพระธาตุมณเฑียร
การเตรียมตกแต่งสถานที่ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกได้กำหนดให้พระฤกษ์ประกอบการพระราชพิธีในวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ เจ้าพนักงานจึงตกแต่งพระราชมณเฑียรที่ต้องจัดตั้งเครื่องประกอบพระราชพิธีต่างๆ ตั้งแต่วันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ทั้งที่พระนั่งจักรพรรดิพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิณ และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ตลอดทั้งในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามและโรงพิธีพราหมณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม
การประกอบพระราชพิธี
ในวันพระฤกษ์บรมราชาภิเษก
ในวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓
อันเป็นวันประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
สรงมูรธาภิเษก แล้วทรงเครื่องต้นเสด็จออก
ประทับเหนือพระที่นั่งอัฐทิศ
เสด็จออกมหาสมาคม เวลาบ่ายของวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ออกมหาสมาคมที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยให้คณะรัฐมนตรี คณะทูต สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทน และข้าราชการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อกราบทูลถวายพระพรชัยมงคล
สถาปนาสมเด็จพระบรมราชินี หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินออกมหาสมาคมแล้ว ในเวลา ๑๔:๔๐ น.พระองค์ได้เสด็จฯ ขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ประทับเหนือพระที่นั่งภัทรบิฐเบื้องซ้าย มีพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการสตรีในพระราชฐานเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท จากนั้นโปรดเกล้าฯ ให้หลวงอักษรการอาลักษณ์อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระราชินีให้ทรงดำรงราชฐานันดรศักดิ์เป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี
ประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก เย็นวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับบนพระที่นั่งราชยานพุดตานทอง เสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนราบใหญ่ไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามเพื่อทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะและถวายต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน
ถวายบังคมพระบรมอัฐิ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามแล้ว ได้เสด็จฯ ขึ้นหอพระธาตุมณเฑียร พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เพื่อถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระอัฐิของสมเด็จพระบรมราชบุพการี
พิธีสมโภช (เฉลิม) พระราชมณเฑียร ในค่ำวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ เจ้าพนักงานตั้งบายศรีทอง บายศรีเงิน ที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชพระราชมณเฑียรตามราชประเพณี ค่ำวันรุ่งขึ้น คือ
วันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินจากพระที่นั่งไพศาลทักษิณไปยังพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ระหว่างทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรยเงินสลึงตลอดทาง มีผู้เชิญเทียนนำกระบวนเสด็จ เท่าที่ทราบผู้ตามเสด็จมีหม่อมเจ้าเฟื่องฉัตร ฉัตรชัย เชิญพระแสงขรรค์ชัยศรี หม่อมราชวงศ์วิมลพยอม
สวัสดิวัตน์ เชิญพระสุพรรณศรี หม่อมราชวงศ์พวงแก้ว ชุมพล เชิญพานพระโอสถ
การถวายพระพรชัยมงคล ในวันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ เวลาเช้า ๑๑:๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วย
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เสด็จออกท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระราชทานวโรกาสให้ทูตานุทูตเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท โดยมี ฯพณฯ เอกอัครราชทูตอังกฤษในฐานะหัวหน้าคณะทูต อ่านคำกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสตอบ แล้วเสด็จขึ้น
เฉลิมพระนามสมเด็จพระสังฆราช
และตั้งพระราชาคณะ
หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนาง
เจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เสด็จออกสีหบัญชร ณ พระที่นั่ง
สุทไธสวรรย์ปราสาทให้ประชาชนเฝ้าแล้ว พระองค์ได้
เสด็จออก ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย โปรดเกล้าฯ ให้
หลวงบรรเจิดอักษรการอาลักษณ์ อ่านประกาศกระแส
พระบรมราชโองการ
ฉลองพระองค์รัชกาลที่ ๙ ระหว่างการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก