สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. ๒๔๖๘ – พ.ศ. ๒๔๗๕
บทนำ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพระราช
โอรสองค์เล็กในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
ประสูติเมื่อวันพุธ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะเส็ง
ตรงกับวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๓๖ ทรงได้รับ
พระราชทานนามว่า “สมเด็จเจ้าฟ้าชายประชาธิปก
ศักดิเดชน์ ปานศรมหาราชาธิราช จุฬาลงกรณนาถ
วโรรส อุดมยศ อุกฤษฐศักดิ์ อุภัยปักษนาวิล อสัมภินชาติ
พิสุทธิ มหามกุฎราชพงศบริพัตร มงคลสมัยสมากร
สถาวรจรัจฉริยคุณ อดุลยราชกุมาร”
การเตรียมประกอบพระราชพิธีก่อนวันพระฤกษ์บรมราชาภิเษก การเตรียมการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในรัชกาลที่ ๗ นี้ ดำเนินการระหว่างวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ เรื่อยมา คือ วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๘ (๒๔๖๙) ประกอบพระราชพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏปรมาภิไธย จารึกดวงพระชนมพรรษา และแกะพระราชลัญจกรสำหรับแผ่นดินด้วยงากลึง ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม การพระราชพิธีก็เช่นเดียวกับครั้งรัชกาลก่อนๆ คือ มีพระสงฆ์ราชาคณะ ๑๐ รูปมาเจริญพระพุทธมนต์ โหรบูชาเทวดา
การประกอบพระราชพิธีในวันพระฤกษ์บรมราชาภิเษก วันประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในรัชกาลที่ ๗ นี้ตรงกับวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๔ ปีฉลู สัปตศก
เสด็จออกมหาสมาคมและสถาปนาสมเด็จพระบรมราชินี เวลาบ่าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถือพระแสงขรรค์ชัยศรี เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยประทับพระแท่นมหาเศวตฉัตร ทรงพระมหาพิชัยมงกุฎและฉลองพระบาท ให้พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้า ผู้แทนพระราชาธิบดีและประธานาธิบดี คณะทูตานุทูต และข้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพร
ประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก เวลาเย็น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
เฉลิมพระราชมณเฑียร ตอนเย็น เจ้าพนักงานตั้งบายศรีแก้ว บายศรีทอง บายศรีเงิน ในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เพื่อเวียนเทียนสมโภชพระราชมณเฑียรตามขัตติยราชประเพณี ในเวลาใกล้ค่ำพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินขึ้นประทับพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน มีพระราชวงศ์ฝ่ายในเชิญเครื่องเฉลิมพระราชมณเฑียร และเครื่องราชูปโภคตามเสด็จ
บุคคลคณะต่างๆ เข้าเฝ้าถวายพระพร ในวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ เวลา ๑๖.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ณ ห้องด้านตะวันออกในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เพื่อให้มหาอำมาตย์เอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไตรทศประพันธ์ เสนาบดีกระทรวงต่างประเทศ เบิกเอกอัครราชทูตพิเศษที่มาช่วยงานแทนพระองค์พระราชาธิบดี และแทนประธานาธิบดีนานาประเทศเข้าเฝ้าคราวละนายตามลำดับรวม ๙ ประเทศ
ของที่ระลึกในงาน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างของที่ระลึกพระราชทานชำร่วยแก่พระเถรานุเถระและ
พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการไทยและต่างประเทศ ตลอดจนพ่อค้าคหบดีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
ฉลองพระองค์รัชกาลที่ ๗ ระหว่างการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันแรก
วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๘ เสด็จออกเพื่อ
สักการะพระบรมอัฐิ เวลาบ่ายห้าโมงเย็น
ทรงเครื่องขาว
การเสด็จเลียบพระนคร หลังจากที่ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้วจึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้มีหมายกำหนดการเสด็จเลียบพระนคร ด้วยกระบวนพยุหยาตราสถลมารค ในวันที่ ๑ มีนาคม ๒๔๖๘ เพื่อทรงนมัสการปูชนียวัตถุในวัดบวรนิเวศวิหารและวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และเสด็จเลียบพระนครด้วยกระบวนพยุหยาตราชลมารค
ในวันที่ ๓ มีนาคม ๒๔๖๘